ไอเดียจัดสวนลอยฟ้าบนระเบียงคอนโดฯ


25 ก.ค. 2563 By Admin
ไอเดีย-จัดสวน-ลอยฟ้า-บนระเบียงคอนโด

ถึงจะอยู่คอนโดฯ ก็อยากจะมีพื้นที่เขียวๆ กับเขาบ้าง แต่จะทำสวนบนระเบียงเล็กๆ ได้อย่างไร ยิ่งหลายคอนโดมิเนียมใหม่ๆ พื้นที่ระเบียงเล็กลงมาก จะเริ่มต้นยังไง แล้วจะดูแลมันยังไงดี เราจึงมีไอเดียในการทำสวนเก๋ๆ และการดูแลสวนบนระเบียงคอนโดฯ มานำเสนอ โดยขอแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ก็คือ กลุ่มสวนแนวตั้ง และกลุ่มสวนแนวนอน เริ่มด้วย

กลุ่มที่ 1 สวนแนวตั้ง

15500792 - top view of small vertical garden

1. สวนแขวนกำแพงระเบียง
วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมเป็นอันดับต้นๆ ของสวนลอยฟ้าบนคอนโดมิเนียม เพราะว่าใช้พื้นที่น้อยมาก ติดกับกำแพงไปเลย สามารถเลือกซื้ออุปกรณ์แขวนตามแหล่งขายต้นไม้ ซึ่งถ้าเป็นแหล่งใหญ่ๆ เช่น สวนจตุจักร (วันพุธ กับวันพฤหัสฯ เท่านั้น) หรือตลาดสนามหลวง 2 ตรงพุทธมณฑลสาย 3 (วันเสาร์-อาทิตย์ ก็มีขาย) เป็นต้น ก็จะมีอุปกรณ์แขวนต้นไม้ ทั้งแบบไม้ แบบพลาสติก ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายมาก ตามชอบความเลย

ในส่วนของต้นไม้ ถ้าเป็นแบบแขวนระเบียง อาจมีข้อจำกัดว่าสามารถเลือกได้เฉพาะต้นไม้ขนาดเล็ก หรือจะเป็นกลุ่มกล้วยไม้ เพราะถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ จะมีน้ำหนักมากเกินไป ซึ่งต้นไม้เล็กๆ ตามแหล่งขายต้นไม้ก็มีให้เลือกหลากหลายมาก สามารถเลือกได้ตามความชอบ

แต่ข้อเสียของสวนลักษณะนี้ คือ ต้องตอกตะปูติดกำแพงเพื่อแขวน ทำให้ไม่ยืดหยุ่นในการโยกย้ายเปลี่ยนมุม และกำแพงเป็นรอยรูตะปู ไม่สวยงาม

2. สวนแขวนบนราวระเบียง
สวนแขวนลักษณะนี้ ก็เป็นที่นิยมเป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน เพราะใช้พื้นที่ไม่มาก โดยปัจจุบันตามแหล่งขายต้นไม้ มีอุปกรณ์แขวนพร้อมกระถางให้เลือกเยอะมาก เราสามารถซื้ออุปกรณ์เหล่านี้แล้วมาเลือกต้นไม้เอง หรือบางร้าน ก็ขายอุปกรณ์พร้อมต้นไม้ หรือจะเป็นกลุ่มต้นไม้แขวนที่ขายเป็นแยกเป็นต้นๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย เช่น กลุ่มไม้ดอกประดับอย่างกล้วยไม้ เวอร์บีน่า ฯลฯ หรือกลุ่มไม้ใบประดับที่มีกิ่งก้านห้อยย้อยลงมาได้ เช่น สายป่านดวงใจ ริบบิ้นชาลี หรือจะเป็น ต้นคุณนายตื่นสาย เป็นต้น

วิธีนี้มีข้อดีกว่าสวนข้อ 1 คือ ไม่ต้องตอกตะปูกำแพง และโยกย้ายได้ง่าย ปรับเปลี่ยนได้ตามชอบ

ทั้งนี้วิธีการดูแลสวนข้อ 1 และข้อ 2 : ส่วนใหญ่จะใช้ฟ็อกกี้ในการฉีดน้ำ ไม่ได้ใช้สายยาง หรือใช้บัวรดน้ำ เพราะนอกจากจะเป็นต้นไม้ขนาดเล็กแล้ว การใช้สายยาง หรือราดน้ำ อาจกระทบกับผู้อยู่อาศัยห้องด้านล่างได้ เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวังด้วย

อย่างไรก็ตาม ต้นไม้ที่ใช้กับสวนข้อ 1 และข้อ 2 ส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ที่ถูกตัดมา หรือเพาะมาขายในปริมาณมากๆ คุณภาพของต้นไม้ อาจจะไม่ดีมากนัก มีโอกาสจะตายเร็ว หากต้องการให้ต้นไม้เหล่านี้อยู่ได้นานขึ้น ขอแนะนำว่า ในทุกอาทิตย์ ควรนำต้นไม้เหล่านี้มาจุ่มน้ำหรือแช่น้ำสัก 15 วินาที ให้ได้รับความชุ่มฉ่ำของน้ำอย่างเต็มที่ เพราะการฉีดฟ็อกกี้ จะทำให้ต้นไม้และดินได้รับน้ำอย่างไม่ทั่วถึง

3. กระถางต้นไม้แนวตั้ง
การจัดสวนลักษณะนี้ จะใช้วิธีการวางพื้นที่ แต่เลือกใช้อุปกรณ์ที่เป็นแนวตั้ง เพื่อประหยัดพื้นที่ โดยอาจจะใช้กระถางที่เรามี ซ้อนกันเรียงขึ้นไปตามขนาดของกระถาง เช่น กระถางใหญ่สุดอยู่ด้านล่าง ไล่ขึ้นไปจนถึงกระถางที่เล็กสุด หรือจะใช้วิธีเลือกซื้ออุปกรณ์ที่เป็นกระถางแนวตั้งมาวางไว้แล้วเลือกต้นไม้มาใส่ ก็สะดวกไปอีกแบบ โดยปัจจุบันตามแหล่งขายต้นไม้ ขายของที่ระลึก ร้านจักสานบางแห่ง ก็มีขายกระถางต้นไม้แนวตั้งให้เลือกตามความชอบเลย

วิธีการการดูแล : ถ้าเป็นกระถางลักษณะนี้ ส่วนใหญ่จะสามารถเลือกต้นไม้ที่เป็นต้นขนาดกลาง (ใหญ่กว่ากลุ่มต้นไม้แขวน) ได้ การรดน้ำ ก็อาจจะใช้สายยาง หรือบัวรดน้ำได้ แต่ต้องระวังว่าจะกระทบผู้อยู่อาศัยห้องข้างล่างด้วย โดยเฉพาะกรณีที่ห้องด้านล่างตากผ้าไว้ แล้วเจอน้ำที่เรารดต้นไม้ อาจจะทำให้เสื้อผ้าของเพื่อนบ้านเปียกได้

4. สวนขั้นบันได
การจัดสวนด้วยวิธีการนี้จะคล้ายกับสวนข้อ 3 แต่แตกต่างกันที่เราจะเรียงให้เป็นขั้นบันได ซึ่งเราอาจจะเลือกอุปกรณ์ที่เป็นกระถางแนวนอน (ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส) แล้วนำมาเรียงกันเป็นลักษณะขั้นบันได ใช้อิฐบล็อก หรือก้อนหินมารอง ก็จะเก๋ไปอีกแบบ ซึ่งสวนลักษณะนี้อาจจะต้องซื้ออุปกรณ์หลายๆ อย่าง หรือหาจากที่เราเคยมีอยู่แล้ว มาปรับๆ ให้เป็นไปตามแบบที่เราชอบและพอเหมาะกับพื้นที่ของเรา

กลุ่มที่ 2 สวนแนวนอน (สำหรับห้องชุดที่มีพื้นที่ระเบียงมากหน่อย)

 

Image via Pinterest

Image via Pinterest

1. สร้างสวน ปูหญ้าเทียม / ปูพรมหญ้าให้ระเบียง
การสร้างสีเขียวให้กับห้องชุดด้วยการปูหญ้าก็ช่วยให้มุมระเบียงของเรามีความเป็นสวนจริงจังมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกทั้ง หญ้าเทียม พรมหญ้า หรือแผ่นปูพื้นสีเขียว ที่นำมาทำให้ระเบียงของเรามีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น แล้วเราก็จัดเป็นสวนขนาดย่อมๆ เติมด้วยกระถางต้นไม้ จะแบบแขวน หรือแบบตั้งพื้น พร้อมด้วยชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ มาวาง ก็จะช่วยให้เรามีพื้นที่พักผ่อนเพิ่มขึ้น

วิธีการดูแล : ควรทำความสะอาด ทั้งตัวหญ้าเทียมเอง และพื้นระเบียงของเราอย่างน้อย 6 เดือนครั้ง เพื่อความสะอาดของระเบียงเราเอง

ข้อเสียของการใช้หญ้าเทียม คือ นอกจากเรื่องความไม่เป็นธรรมชาติเหมือนหญ้าจริงแล้ว หญ้าเทียมจะดูดความร้อน ในช่วงหน้าร้อน พื้นหญ้าเทียมจึงจะร้อนมากกว่าเมื่อเทียบกับหญ้าจริง อีกทั้ง หญ้าเทียมอาจมีสารเคมีจากการผลิต ซึ่งผู้ใช้ที่มีความอ่อนไหวในเรื่องสารเคมีควรศึกษาก่อน

2. วางกระถางต้นไม้ใหญ่
สำหรับใครที่ชื่นชอบต้นไม้ขนาดกลาง-ใหญ่ อาจจะเลือกเป็นกระถางต้นไม้แบบตั้งพื้น ซึ่งควรเลือกกระถางที่ไม่ใหญ่เกินไป เพราะมีผลกับเรื่องการรับน้ำหนักทั้งตัวกระถางเอง และต้นไม้ที่อาจจะใหญ่ขึ้น โดยกรณีที่มีหลายกระถาง ควรวางแบบกระจายๆ ไม่ควรวางมุมใดมุมหนึ่ง เพราะจะทำให้พื้นที่ส่วนนั้นรับน้ำหนักมากเกินไป

วิธีการดูแล : การรดน้ำต้นไม้ขนาดกลาง-ใหญ่ ส่วนใหญ่ต้องใช้สายยาง หรือบัวรดน้ำ ควรระวังจะกระทบกับผู้อยู่อาศัยห้องข้างล่าง

3. บ่อบัวขนาดเล็ก
บ่อบัวเล็กๆ ที่อาจจะมีปลาหางนกยูงอยู่ด้วย ก็ช่วยเพิ่มความรื่นรมย์ให้กับระเบียงของเราได้มาก และควรเลือกบ่อน้ำที่ไม่ใหญ่มาก เพราะมีผลกับเรื่องการรับน้ำหนักด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะบ่อบัวจะต้องใส่น้ำ ยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยกรณีที่เรามีกระถางต้นไม้ใหญ่หลายต้นแล้ว ไม่ควรเพิ่มน้ำหนักให้กับระเบียงด้วยบ่อบัวอีก เพราะจะทำให้ระเบียงรับน้ำหนักมากเกินไป จนเป็นอันตรายได้

หมายเหตุ: การตกแต่งสวนกระถางต้นไม้ใหญ่และบ่อบัว เจ้าของห้องชุด หรือผู้เช่าห้องชุด ควรขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นิติบุคคลที่ดูแลโครงการว่า ระเบียงห้องชุดรองรับน้ำหนักได้มากแค่ไหน เพื่อเลือกขนาดต้นไม้ที่จะนำมาใช้บนระเบียงได้อย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่อยู่อาศัยในโครงการ

Traditional European Balcony with flowers and flowerpots

 

เครดิต : ไอเดียจัดสวนลอยฟ้าบนระเบียงคอนโดฯ

 


แชร์บทความนี้

บทความที่น่าสนใจ